กู้ร่วมซื้อบ้านกับแฟน มีขั้นตอนและคุณสมบัติอย่างไรบ้าง?

ในยุคที่ราคาบ้านสูงขึ้นเรื่อย ๆ “การกู้ร่วมซื้อบ้านกับแฟน” กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมของคู่รักวัยทำงาน เพราะช่วยเพิ่มวงเงินกู้ และทำให้ได้บ้านในฝันง่ายขึ้น แต่ก่อนจะตัดสินใจกู้บ้านร่วมกับแฟน ต้องรู้อะไรบ้าง? มีขั้นตอนและคุณสมบัติอย่างไร บทความนี้มีคำแนะนำดี ๆ มาฝาก
กู้ร่วมซื้อบ้านกับแฟน คืออะไร?
การกู้ร่วมซื้อบ้าน คือ การที่ผู้กู้มากกว่า 1 คน ยื่นขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารเดียวกัน โดยธนาคารจะนำรายได้ของทั้งคู่มาพิจารณารวมกัน เพื่อเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ และเพิ่มวงเงินกู้ให้สูงขึ้น
การกู้บ้านร่วมกับแฟน ก็คือการยื่นขอสินเชื่อกู้บ้านร่วมกับคนรักหรือสามีภรรยา เพื่อให้ธนาคารนำรายได้มาพิจารณาร่วมกันนั่นเอง เช่น หากกู้เงินซื้อบ้านคนเดียว รายได้ 30,000 บาท อาจได้วงเงินประมาณ 2 ล้านบาท แต่ถ้ากู้บ้านร่วมกับแฟนที่มีรายได้อีก 25,000 บาท รวมกันเป็น 55,000 บาท อาจได้วงเงินสูงถึง 3.5–4 ล้านบาทเลยทีเดียว
ข้อดีของการกู้บ้านร่วมกับแฟน
- เพิ่มวงเงินกู้ได้มากขึ้น : รวมรายได้ทั้งสองฝ่าย ทำให้ธนาคารเห็นศักยภาพในการผ่อนชำระสูงขึ้น
- แบ่งเบาภาระการผ่อน : ผ่อนร่วมกันคนละครึ่ง ทำให้ภาระต่อเดือนลดลง
- ถือกรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สิน : หากจดทะเบียนสมรส การกู้บ้านร่วมกับแฟนจะทำให้สามารถเป็นเจ้าของบ้านร่วมกันโดยถูกต้องตามกฎหมาย
- สร้างสินทรัพย์ร่วมในอนาคต : เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างฐานะคู่ชีวิตร่วมกัน
คุณสมบัติผู้กู้ร่วมซื้อบ้าน
แม้จะเป็น “คู่รัก” กัน แต่ในมุมของธนาคารแล้ว ทั้งสองคนถือเป็น “ผู้กู้ร่วม” ตามกฎหมายทางการเงิน ซึ่งต้องมีคุณสมบัติครบตามนี้
1. อายุผู้กู้และผู้กู้ร่วม
- อายุขั้นต่ำ 20 ปีบริบูรณ์ โดยสามารถเลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้สูงสุด 40 ปี แต่เมื่อนำอายุของผู้ขอรวมกับระยะเวลาผ่อนชำระสินเชื่อแล้วจะต้องไม่เกิน 70 ปี
2. สถานะความสัมพันธ์
- กรณีจดทะเบียนสมรสแล้ว : ถือเป็นคู่สมรสตามกฎหมาย สามารถกู้บ้านร่วมกับแฟนและถือกรรมสิทธิ์ร่วมได้
- กรณียังไม่ได้จดทะเบียนสมรส : ธนาคารบางแห่งให้กู้ร่วมได้ แต่ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป และมักให้ถือกรรมสิทธิ์คนละส่วน โดยต้องมีหลักฐานยืนยันการแต่งงาน เช่น ภาพถ่าย หรือหนังสือรับรองบุตร (กรณีมีบุตรร่วมกัน)
3. รายได้และอาชีพ
- หากจะทำการกู้ร่วมซื้อบ้านกับแฟน จะต้องมีรายได้แน่นอน มีสลิปเงินเดือน หรือเอกสารแสดงรายได้ (ฟรีแลนซ์ก็ยื่นได้ หากมีหลักฐานรายได้ต่อเนื่อง)
- มีประวัติเครดิตดี ไม่มีหนี้เสียหรือค้างชำระ
4. สัญชาติและภูมิลำเนา
- ผู้กู้บ้านร่วมกับแฟน ต้องเป็นคนไทย หรือมีสัญชาติไทยอย่างน้อย 1 คน
- หากเป็นต่างชาติ ต้องมีเอกสารรับรองและสัญญาร่วมกับผู้กู้คนไทย
ขั้นตอนการกู้บ้านร่วมกับแฟน
1. วางแผนรายได้และงบประมาณ
ก่อนทำการกู้บ้านร่วมกับแฟน ควรตรวจสอบรายได้รวมต่อเดือนของทั้งสองฝ่าย และคำนวณความสามารถในการผ่อนให้แน่ใจก่อน ว่าสามารถผ่อนได้มากแค่ไหน เพราะการกู้บ้านหมายถึงการเป็นหนี้ระยะยาว หากมั่นใจแล้วว่าสามารถผ่อนได้ ค่อยเลือกวงเงินกู้และระยะเวลาผ่อนที่เหมาะสม ซึ่งส่วนมากจะอยู่ที่ 20–30 ปี
2. เตรียมเอกสารประกอบการกู้ร่วมซื้อบ้านกับแฟน
จัดเตรียมเอกสารหลักที่ใช้ในการกู้ร่วมซื้อบ้านกับแฟนให้ครบถ้วน ได้แก่
เอกสารประจำตัว
- บัตรประจำตัวประชาชน / บัตรข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาใบเปลี่ยนแปลงชื่อ – สกุล (หากมี)
- เอกสารหลักประกัน (ตามที่สถาบันทางการเงินกำหนด)
เอกสารยืนยันสถานะคู่สมรส
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้กู้ร่วม (แฟน / คู่สมรส)
- สำเนาใบเปลี่ยนแปลงชื่อ – สกุล (หากมี)
- สำเนาทะเบียนสมรส
- หนังสือรับรองบุตร
เอกสารแสดงรายได้กรณีอาชีพประจำ
- หนังสือรับรองเงินเดือน / หนังสือรับรองสิทธิสวัสดิการ
- สลิปเงินเดือน หรือหลักฐานการรับเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือน
- Statement เงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
- หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ (พร้อมฉบับจริง)
เอกสารแสดงรายได้กรณีอาชีพอิสระ
- Statement เงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน
- หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ (พร้อมฉบับจริง)
- สำเนาทะเบียนการค้า / ทะเบียนพาณิชย์ / ทะเบียนบริษัท / ทะเบียนนิติบุคคล
- หลักฐานการเสียภาษีเงินได้
- ภาพถ่ายกิจการ 3 – 4 ใบ
- สำเนาใบประกอบวิชาชีพ
- สำเนาใบเสร็จรับเงินค่าสั่งซื้อสินค้า
- หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ (พร้อมตัวจริง)
3. ยื่นขอสินเชื่อกับธนาคาร
หากจะทำการกู้บ้านร่วมกับแฟน สามารถยื่นได้ที่ธนาคารสาขาใกล้บ้าน หรือส่งเรื่องผ่านช่องทางออนไลน์ให้ธนาคารติดต่อกลับ โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบรายได้ เครดิตบูโร และหลักทรัพย์ค้ำประกันก่อนพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ หากผ่านการพิจารณา ธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่ไปประเมินราคาบ้าน เพื่อคำนวณวงเงินกู้ที่อนุมัติได้
4. อนุมัติสินเชื่อและเซ็นสัญญา
เมื่อผ่านการอนุมัติสินเชื่อแล้ว ผู้กู้ทั้ง 2 คน จะต้องไปเซ็นเอกสารการกู้บ้านร่วมกับแฟนร่วมกัน โดยผู้กู้ต้องทำการระบุกรรมสิทธิ์ในโฉนดและชื่อผู้กู้ให้ถูกต้อง เมื่อธนาคารโอนเงินให้ผู้ขายแล้ว ผู้กู้ก็รับโฉนดบ้าน (ภายใต้การจำนองกับธนาคาร) ได้เลย
ข้อควรรู้ในการกู้บ้านร่วมกับแฟน
1. กรณีเลิกราหรือหย่าร้างกัน
กรณีจดทะเบียนสมรส หากมีการหย่าร้าง หลังจากจดทะเบียนหย่าเรียบร้อยแล้ว ให้นำใบหย่าและสัญญาซื้อขายไปขอถอนอดีตชื่อคู่รักออกจากสัญญากู้กับทางธนาคารได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเปลี่ยนเงื่อนไขสินเชื่อและทำสัญญาเงินกู้ให้ใหม่ กรณีไม่ได้จดทะเบียน ควรตกลงร่วมกันว่าจะให้ใครเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ แล้วค่อยไปแจ้งถอดถอนชื่อออกจากสัญญากู้บ้านร่วมกับแฟนกับทางธนาคาร ซึ่งธนาคารจะประเมินความสามารถของผู้กู้อีกทีว่าสามารถผ่อนชำระต่อได้หรือไม่
2. ภาระหนี้ร่วมกัน
หากทำการการกู้ร่วมซื้อบ้าน ก็ถือว่าหนี้ที่กู้มานั้น เป็น “ภาระหนี้ร่วมกัน” ไม่สามารถแยกจ่ายได้ เพราะธนาคารจะมองว่าผู้กู้ร่วมทุกคนเป็นลูกหนี้ร่วมในหนี้ก้อนเดียวกัน ดังนั้น หากมีผู้กู้คนใดคนหนึ่งไม่สามารถชำระหนี้ได้ อีกคนจะต้องรับภาระชำระหนี้ทั้งหมดแทน
3. ลดหย่อนดอกเบี้ยบ้านได้ แต่ต้องหารเฉลี่ย
การกู้ร่วมซื้อบ้านกับแฟน สามารถลดหย่อนภาษีได้ แต่ต้องหารเฉลี่ยตามจำนวนผู้กู้ เช่น สองสามีภรรยากู้เงินร่วมกันซื้อบ้านมือสองเชียงใหม่ โดยมีดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งปี 8 หมื่นบาท จะสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้คนละ 4 หมื่นบาท ซึ่งบ้านหนึ่งหลัง จะสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุด 1 แสนบาทต่อปี ซึ่งหมายถึง หากต้องจ่ายดอกเบี้ยทั้งปี 1.3 แสนบาท จะใช้สิทธิ์ได้คนละ 5 หมื่นบาทเท่านั้น ไม่ใช่ 6.5 หมื่นบาท
การกู้บ้านร่วมกับแฟนถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างอนาคต แต่ก็ต้องมาพร้อมกับ “ความเข้าใจ” และ “ความรับผิดชอบร่วมกัน” เพราะธนาคารมองว่าผู้กู้ทั้งสองคือผู้รับผิดชอบหนี้เท่าเทียมกันทั้งหมด ก่อนจะลงชื่อในสัญญา ผู้กู้ทั้ง 2 คน จะต้องมีการตกลงกันให้ชัดเจน ทั้งเรื่องสัดส่วนการผ่อน การถือกรรมสิทธิ์ และแผนสำรองหากมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต