9 เรื่องสำคัญที่คนอยากซื้อบ้านหลังแรกต้องรู้

แม้การมีบ้านเป็นของตัวเองสักหนึ่งหลังจะดูเป็นเรื่องยากในยุคปัจจุบัน แต่หากมีการวางแผนอย่างรอบคอบก็สามารถมีบ้านหลังแรกเป็นของตัวเองได้ แต่ควรทำความเข้าใจและศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน เพื่อให้ได้บ้านที่ตรงใจผู้ซื้อมากที่สุด
1. เลือกราคาบ้านให้สอดคล้องกับรายได้
ควรเลือกบ้านที่มีราคาสอดคล้องกับรายได้และค่าใช้จ่ายต่อเดือน หากคำนวณค่างวดรายเดือนแล้ว รู้สึกว่าผ่อนยาว ๆ ได้สบาย ไม่ลำบาก แปลว่ามาถูกทางแล้ว ซึ่งในการซื้อบ้านหลังแรก จะต้องวางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 10-30% ของราคาบ้าน โดยเงินดาวน์นั้นจะถูกนำไปหักลบกับค่าบ้าน ยิ่งวางดาวน์สูง จำนวนเงินกู้ก็จะลดลง ทำให้ค่างวดผ่อนบ้านแต่ละเดือนลดลงตามไปด้วย เพิ่มโอกาสให้ธนาคารอนุมัติเงินกู้บ้านได้เร็วขึ้น
บ้านมือหนึ่งมักจะแพงกว่าบ้านมือสองหรือบ้านรีโนเวท หากต้องการบ้านใหม่ที่ไม่เคยผ่านการใช้งาน อาจต้องแลกกับราคาที่สูง บ้านมือสองจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการบ้านราคาถูกลง
2. เลือกทำเลให้เหมาะสม
เลือกซื้อบ้านหลังแรกโดยพิจารณาว่าปกติแล้วใช้ชีวิตแบบไหน หากไม่มีรถส่วนตัวใช้ การเลือกบ้านใกล้ที่ทำงาน/ที่เรียน หรือใกล้รถสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า, รถเมล์ ให้สามารถเดินทางได้สะดวกย่อมเป็นทางเลือกที่ดี แต่ถ้ามีรถส่วนตัวใช้อยู่แล้ว การเลือกซื้อบ้านที่ใกล้หรือติดถนนหลัก ให้รถสัญจรได้สะดวก ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมเช่นกัน ซึ่งปกติแล้ว บ้านติดรถไฟฟ้าหรือบ้านทำเลสวย ๆ มักจะมีราคาสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะบ้านมือหนึ่ง หากต้องการประหยัดงบลงมาอีกหน่อย การเลือกซื้อบ้านมือสองอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม
3. เลือกรูปแบบและสไตล์บ้านที่ชอบ
พิจารณาเลือกบ้านหลังแรกจากจำนวนสมาชิกในครอบครัว พื้นที่ใช้สอย และสิ่งอำนวยความสะดวก หากอยู่คนเดียว คอนโดที่มีพื้นที่ส่วนกลางอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้ามีสมาชิกในบ้านหลายคน การเลือกอยู่บ้านอาจตอบโจทย์มากกว่า เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่านั่นเอง
บ้านแต่ละสไตล์จะมีจุดเด่นไม่เหมือนกัน แบบบ้านที่คนไทยนิยมมักจะเป็นบ้านโมเดิร์น ที่มีความทันสมัย ใช้รูปทรงเรขาคณิต เน้นโทนสีอบอุ่นเพื่อสร้างบรรยากาศธรรมชาติ และอีกแบบที่กำลังเป็นกระแสก็คือบ้านมินิมอล ที่มีการตกแต่งน้อยชิ้น เน้นความโปร่งโล่ง ใช้โทนสีอ่อนในการตกแต่ง นอกจากนี้ บ้านสไตล์ลอฟต์ และเนเจอรัล ที่ชูจุดเด่นด้านความเป็นธรรมชาติ ก็ได้รับความนิยมในไทยเช่นเดียวกัน
4. เช็กเจ้าของโครงการ
จะมีประสบการณ์อย่างไรในการซื้อบ้านหลังแรก ล้วนขึ้นอยู่กับการเลือกโครงการบ้าน ปัญหาบ้านในโครงการ ส่วนมากมักจะเป็นบ้านที่สร้างไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ทรุดตัวไว จึงควรเลือกผู้สร้างที่ไว้ใจได้ โดยสามารถเช็กรีวิวจากลูกค้าเก่า ๆ เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือ และคุณภาพวัสดุก่อสร้างได้
5. ดูสถานที่จริง
สิ่งสำคัญในการซื้อบ้านหลังแรกที่ห้ามละเลยเด็ดขาดคือการไปดูสถานที่จริง หากเป็นบ้านในโครงการสามารถเข้าดูโครงการได้จากบ้านตัวอย่าง นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมรอบบ้านก็มีความสำคัญ โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก มีแสงไฟตลอดทางเข้า-ออก ไม่มีข่าวการโจรกรรม-อาชญากรรม ทั้งยังไม่ควรเลือกบ้านใกล้สถานที่ที่อาจก่อมลพิษให้กับผู้อยู่อาศัย เช่น สถานที่ทางศาสนา, ตลาดสด, โรงงาน, ที่ทิ้งขยะ หรือพื้นที่ใกล้น้ำเน่าเสีย
6. ขอสินเชื่อบ้าน
วิธีขอสินเชื่อบ้าน เพื่อกู้เงินซื้อบ้านหลังแรก
1. เริ่มจากตรวจสอบเครดิตบูโร เช็กประวัติการชำระหนี้
เพื่อดูคะแนนเครดิต ได้ที่ศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB) หรือธนาคารที่คุณใช้บริการ โดยทั่วไป ธนาคารจะพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระไม่เกิน 40% ของรายได้ทั้งหมด
2. เลือกธนาคารที่มีเงื่อนไขการผ่อนชำระตรงกับความต้องการ
โดยเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย รวมถึงโปรโมชันของแต่ละธนาคาร เพื่อคำนวณความคุ้มค่า
3. เตรียมเอกสารขอสินเชื่อบ้านให้ครบถ้วน
- เอกสารส่วนตัว
- บัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ
ทะเบียนบ้าน - สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า/ใบมรณะบัตร/ใบแจ้งความแยกกันอยู่ (ถ้ามี)
- สำเนาใบเปลี่ยนแปลงชื่อ – สกุล (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส (ถ้ามี)
- บัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ
- เอกสารแสดงรายได้ อาชีพประจำ
- หนังสือรับรองเงินเดือน
- สลิปเงินเดือน หรือหลักฐานการรับเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือน
- Statement เงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารแสดงรายได้ อาชีพอิสระ
- Statement เงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
- สำเนาทะเบียนการค้า/ทะเบียนพาณิชย์/ทะเบียนบริษัท/ทะเบียนนิติบุคคล
- หลักฐานการเสียภาษีเงินได้
- ภาพถ่ายกิจการ 3-4 ใบ
- สำเนาใบประกอบวิชาชีพ
- สำเนาใบเสร็จรับเงินค่าสั่งซื้อสินค้า
- เอกสารเกี่ยวกับบ้าน
- สำเนาหนังสือสัญญาซื้อขาย
- สำเนาหนังสือสัญญากู้เงิน และสำเนาสัญญาจำนองกับสถาบันการเงินเดิม (กรณีไถ่ถอนจำนองย้ายฯ)
- ใบเสร็จการผ่อนชำระ หรือบัญชีหมุนเวียน ย้อนหลัง 1 หรือ 2 ปี (กรณีไถ่ถอนจำนองย้ายฯ)
- หลักฐานการเป็นเจ้าของอาคาร
- สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดินฉบับกรมที่ดิน
- สำเนาโฉนดที่ดิน
- ใบอนุญาตปลูกสร้าง/ต่อเติม
- แบบแปลน/พิมพ์เขียว
- ใบประมาณการปลูกสร้าง/สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง
4. รอการพิจารณาสินเชื่อ
หากผ่านการอนุมัติ จะได้รับการแจ้งวงเงินสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ย แต่ถ้ายื่นสินเชื่อบ้านไม่ผ่าน อาจต้องพิจารณาปรับลดวงเงินหรือเพิ่มผู้ค้ำประกัน
7. ตรวจสอบสภาพบ้านก่อนซื้อ
ก่อนซื้อบ้านหลังแรก ควรตรวจสอบสภาพของบ้านและวัสดุต่าง ๆ ให้เรียบร้อยในทุก ๆ จุด ไม่ว่าจะเป็นพื้น, ผนัง, หลังคา, เสาเข็ม, ระบบไฟฟ้าและประปา รวมถึงประวัติการซ่อมบำรุงและการรับประกัน เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้บ้านที่มีสภาพดี ถูกต้องตามหลักการก่อสร้างสากล หากพบปัญหาควรแจ้งทางโครงการให้รีบแก้ไขก่อนเข้าอยู่
8. สัญญาและข้อตกลงการซื้อขาย
อ่านสัญญาในการซื้อบ้านหลังแรกอย่างละเอียด พร้อมตรวจสอบเงื่อนไขการโอนบ้านและการชำระเงินให้เรียบร้อย โดยค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียม จะมีค่าใช้จ่ายก่อนการโอนบ้าน ได้แก่ ค่าทำสัญญาหรือเงินจอง และเงินดาวน์บ้าน ที่ต้องเตรียมไว้ขั้นต่ำ 10-30% ของราคาบ้าน ส่วนค่าใช้จ่ายในวันโอนบ้าน จะมีค่าธรรมเนียม 2% ของราคาประเมิน และค่าจดจำนอง จำนวน 1% ของยอดสินเชื่อ
9. ค่าใช้จ่ายหลังซื้อบ้าน
ส่วนมากจะเป็นค่าออกแบบและตกแต่งบ้าน ค่าเฟอร์นิเจอร์ (บางโครงการมีเฟอร์นิเจอร์ให้พร้อมอยู่แล้ว) อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงค่าประกันภัยบ้าน ที่จะช่วยคุ้มครองบ้านของคุณหากมีเหตุไฟไหม้, น้ำท่วม หรือการโจรกรรม ช่วยให้อุ่นใจไปได้อีกขั้นหนึ่งสำหรับคนเพิ่งซื้อบ้านหลังแรก
การซื้อบ้านหลังแรก นอกจากจะสามารถเข้าอยู่อาศัยได้แล้ว ยังใช้เพื่อการลงทุนได้อีกด้วย แต่ต้องพิจารณาถึงความต้องการของตลาดเป็นหลัก โดยอาจจะเลือกบ้านทำเลดี พิกัดยอดนิยม ที่มีสไตล์เข้าถึงคนไทย ตัวอย่าง บ้านมินิมอล บ้านสไตล์โมเดิร์น เชียงใหม่ ติดถนนหลัก นอกจากจะสร้างความสะดวกสบายในการเดินทางให้ผู้อยู่อาศัยได้แล้ว ยังสร้างมูลค่าสูงในอนาคตได้อีกด้วย